ผัก 5 ชนิด ที่ห้ามทานสด

ถั่วงอก (Bean sprouts)

ถั่วงอกเป็นผักที่นิยมทานกันสดๆ บางคนชอบทานคู่กับก๋วยเตี๋ยว และยังเป็นผักที่ให้โปรตีนและไขมันสูงอีกด้วย แต่ในถั่วงอกนั้นมีการปนเปื้อนของสารฟอกขาว หากทานดิบบ่อยๆ ในปริมาณที่มากเป็นประจำ

สารตัวนี้จะไปสะสมอยู่ในร่างกาย จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ มีลักษณะหายใจขัด และความดันโลหิตต่ำ แต่สารฟอกขาวสามารถถูกทำลายได้ ถ้านำถั่วงอกไปต้มสุกก่อนทาน

ถั่วฝักยาว (Yardlong bean)

ถั่วฝักยาวเป็นผักที่นิยมทานแบบสด ส่วนใหญ่จะนำไปทานคู่กับน้ำพริก ลาบ ส้มตำและเมนูอื่นๆอีกมากมาย ถั่วฝักยาวถือว่าเป็นผักที่ให้วิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย ทั้งวิตามินบี วิตามินเอ และธาตุเหล็ก

แต่ในถัวฟักยาวมีสารไกลโคโปรตีนและเลคตินค่อนข้างสูง ซึ่งสารทั้ง 2 ชนิดนี้ หากไปสะสมอยู่ในร่างกายอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้และอาเจียน

แครอท (Carrot)

แครอทเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งช่วยในเรื่องเสริมสร้างการเจริญเติบโตของร่างกาย ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และในแครอทมีสารเบต้าแคโรทีนที่สำคัญ เป็นตัวช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งและต่อต้านการเกิดเซลล์มะเร็งได้เป็นอย่างดี

แต่ถ้าหากทานแครอทดิบในปริมาณที่มาก มันจะไปทำให้การดูดซึมของสารเบต้าแคโรทีนลดลง ทำให้ร่างกายเสื่อมไว

กะหล่ำปลี (Cabbage)

เป็นผักที่ให้วิตามินซีสูงแก่ร่างกาย แต่ในกะหล่ำปลีมีสารพิษที่เรียกว่า สารกอยโตรเจน ซึ่งเป็นสารที่เข้าไปขัดขวางการดูดซึมของไอโอดีน หากเราทานกะหล่ำปลีดิบในปริมาณที่มากจนเกินไป หรือทานต่อเนื่องเป็นประจำ จนสารพิษเข้าไปสะสมในร่างกายปริมาณมาก อาจทำให้เกิดโรคคอพอกและโรคไทรอยด์

ทางที่ดีก่อนทานกะหล่ำปลีควรนำไปต้ม เพราะความร้อนสามารถช่วยกำจัดสารพิษได้

หน่อไม้ (Bamboo shoot)

หน่อไม้เป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วยเพราะอุดมไปด้วยสารอาหารต่าง ๆ เช่น ใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องระบบการทำงานของลำไส้ วิตามินบี 6 และวิตามินอี แต่ในหน่อไม้มีสารไซยาไนด์ที่เป็นพิษต่อร่างกายจำนวนมาก

ควรนำหน่อไม้ไปผ่านความร้อน เช่น การเผา การต้ม การนึ่ง ก่อนทานทุกครั้ง เพื่อช่วยปริมาณสารพิษให้น้อยลง

อ่านข้อความอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ >> https://tararomestate.com/blog/lifestyle/